คณะรัฐมนตรีเห็นชอบปรับลดราคารับจำนำข้าวเปลือก พร้อมเน้นเกษตรโซนนิ่งเพิ่มรายได้และคุณภาพสินค้าเกษตร
ประชาสัมพันธ์เวลาเผยแพร่ - 09:07 21 มิถุนายน 2556
การประชุมคณะรัฐมนตรีครั้งที่ 24/2556 ณ ห้องสีเขียว ตึกไทยคู่ฟ้า ในวันพุธที่ 19 มิถุนายน 2556
การประชุมคณะรัฐมนตรีครั้งที่ 24/2556 ณ ห้องสีเขียว ตึกไทยคู่ฟ้า ในวันพุธที่ 19 มิถุนายน 2556
การประชุมคณะรัฐมนตรีครั้งที่ 24/2556 ณ ห้องสีเขียว ตึกไทยคู่ฟ้า ในวันพุธที่ 19 มิถุนายน 2556 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี รับทราบผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ หรือ กขช. เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2556 ซึ่งเป็นเรื่องสืบเนื่องจากผลการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2556 ที่ได้ให้มีการนำข้อมูลจากสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับโครงการรับจำนำข้าวเปลือกเข้าพิจารณาเพิ่มเติม โดยคำนึงถึงคุณภาพชีวิตของเกษตรกร
ที่ประชุมกขช.เห็นว่าสถานการณ์เศรษฐกิจโลกโดยรวมมีความผันผวน ประกอบกับอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น จึงเห็นชอบให้ปรับราคารับจำนำข้าวเปลือกเจ้า 100% ของโครงการรับจำนำข้าวเปลือกปีการผลิต 2555/56 ครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 จากราคาตันละ 15,000 บาท เป็นราคาตันละ 12,000 บาท ตั้งแต่วันที่ 30 มิถุนายน 2556 เป็นต้นไป โดยราคาที่ปรับลงใกล้เคียงกับราคาเฉลี่ยของข้าวเปลือกเจ้านาปรัง บวกค่าตอบแทนเกษตรกรประมาณร้อยละ 40 ซึ่งเป็นเกณฑ์การช่วยเหลือที่สูงกว่ามาตรฐานการช่วยเหลือสินค้าเกษตรทั่วไป อย่างไรก็ตามที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเห็นว่าจะสามารถปรับราคาและเงื่อนไข หากสถานการณ์เศรษฐกิจโลกมีการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้น
ขณะเดียวกันที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ยังรับทราบผลการประชุม กขช. เรื่องการจำกัดวงเงินรับจำนำข้าวของเกษตรกรแต่ละครัวเรือน จากเดิมที่ไม่จำกัดวงเงิน เป็นไม่เกินครัวเรือนละ 500,000 บาทต่อปี โดยให้เริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 20 มิถุนายน 2556 เป็นต้นไป
สำหรับกรอบวงเงินที่ใช้ในการรับจำนำข้าวเปลือกนั้น ยืนยันตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2556 ที่กำหนดวงเงินดำเนินการสิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2556 จะต้องไม่เกิน 500,000 ล้านบาท แบ่งเป็นวงเงินจากกระทรวงการคลัง 410,000 ล้านบาท และเงินทุนหมุนเวียนของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรจำนวน 90,000 ล้านบาท
ส่วนข้อท้วงติงว่าการปรับเปลี่ยนโครงการรับจำนำข้าวเปลือก จะกระทบกับสิ่งที่รัฐบาลได้แถลงเป็นนโยบายหรือไม่นั้น นายอัชพร จารุจินดา เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ให้ความเห็นว่าสามารถดำเนินการได้ เพราะรัฐบาลได้ดำเนินนโยบายเร่งด่วนตามที่ได้แถลงไว้ครบถ้วนแล้วแก่เกษตรกรตั้งแต่ปีแรก จากนี้ไปจะเป็นการปรับโครงสร้างภาคการเกษตร ที่จะเน้นเพิ่มรายได้ให้ดีขึ้น พร้อมกับเพิ่มคุณภาพชีวิตเกษตรกรให้ดีอย่างยั่งยืน
นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีกล่าวในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีด้วยว่า จากนี้ไปต้องให้ความสำคัญกับ 3 ประเด็นคือ 1.การทำเกษตรโซนนิ่ง โดยเน้นให้มีการปลูกพืชเกษตรในพื้นที่ที่เหมาะสม เพื่อช่วยเพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกร 2.เร่งรัดให้กระทรวงที่เกี่ยวข้องนำงานวิจัยที่เกี่ยวเนื่องกับการเพิ่มมูลค่าและคุณภาพสินค้าเกษตรมาปรับใช้ เช่น การผลิตข้าวอินทรีย์ ที่เมื่อผลิตและส่งออกแล้วได้ราคาดี และ 3.ได้มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีกิตติรัตน์ ณ ระนอง หารือร่วมกับกระทรวงพลังงาน และกระทรวงอุตสาหกรรม ยกระดับราคาสินค้าเกษตรที่สามารถนำมาใช้ในการผลิตเป็นพลังงานทดแทน
นอกจากนี้เพื่อความโปร่งใสในการดำเนินการโครงการรับจำนำข้าว ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมถึงกระทรวงมหาดไทย เข้มงวดในการตรวจสอบโครงการรับจำนำข้าวทุกขั้นตอน ตั้งแต่ การจดทะเบียน การตรวจสภาพข้าว การเก็บรักษา และการระบายข้าว
สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติพบว่า โครงการรับจำนำข้าวที่ผ่านมา ทำให้กำลังซื้อและการบริโภคของประเทศเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 2% ทำให้ GDP เพิ่มขึ้นประมาณ 0.69% ในปีแรกของโครงการ และเพิ่มขึ้น 0.62% ในปีที่สอง ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นกว่าอัตราปกติ ทั้งนี้ในปี 2555 ที่ผ่านมา การใช้จ่ายภาคครัวเรือนทั้งประเทศขยายตัวถึง 6.7% แต่หากไม่มีโครงการเพื่อเพิ่มรายได้และอำนาจซื้อของเกษตรกรในชนบท จะส่งผลทำให้การบริโภครวมของครัวเรือนขยายตัวเพียง 4.7% เท่านั้น
ในส่วนของอำเภอบางละมุง ได้ดำเนินการ ดังนี้
1. นายพรชัย ขวัญสกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ได้ดำเนินการชี้แจงและทำความเข้าใจกับหัวหน้าส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เกษตรกร และประชาชนในเขตพื้นที่อำเภอบางละมุง ได้รับทราบในกิจกรรมออกหน่วยบำบัดทุกข์บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้ประชาชน และกิจกรรมผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี พบปะผู้นำหมู่บ้าน / ชุมชน เพื่อรับฟังสภาพปัญหาในพื้นที่ เมื่อวันพุธที่ 19 มิถุนายน 2556 เวลา 09.00 น. ณ บริเวณวัดประชุมคงคา หมู่ที่ 2 ตำบลบางละมุง อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี
2. แจ้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และสื่อมวลชน ประชาสัมพันธ์การออกอากาศรายการ “รัฐบาลยิ่งลักษณ์พบประชาชน” ในวันเสาร์ที่ 22 มิถุนายน 2556 เวลา 08.00 – 09.00 น. ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย สทท.11 และ ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย (FM 92.5) พร้อมกับขอความร่วมมือวิทยุชุมชนถ่ายทอดเสียงการออกอากาศรายการ “รัฐบาลยิ่งลักษณ์พบประชาชน” และให้หมู่บ้าน/ชุมชนที่มีหอกระจายข่าวได้เปิดหอกระจายข่าว รับฟังรายการ “รัฐบาลยิ่งลักษณ์พบประชาชน” เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ได้ทราบข้อมูลที่ถูกต้องจากทางราชการ
3. นายอำเภอบางละมุง จะได้ออกรายการเคเบิ้ลทีวีในเขตพื้นที่ ซึ่งประกอบด้วย บริษัทโสภณเคเบิ้ลทีวีและการสื่อสารพัทยา จำกัด , บริษัทบางละมุง เคเบิ้ลทีวี จำกัด , บริษัท ทิพย์มณี มีเดีย เน็ตเวิร์ค จำกัด เพื่อชี้แจง ทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนให้รับทราบถึงนโยบาย เรื่องการรับจำนำข้าวของรัฐบาล
4. อำเภอจะได้จัดทำแผนปฏิบัติการออกประชุมชี้แจง ให้ผู้นำหมู่บ้าน / ชุมชน ผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้รับทราบถึงนโยบายรับจำนำข้าวของรัฐบาลให้เสร็จสิ้น ภายในวันที่ 28 มิถุนายน 2556 และจะได้จัดส่งแผนปฏิบัติการให้จังหวัดทราบ ภายในวันที่ 21 มิถุนายน 2556